สิงห์ลุ้นฮาซาร์ด,คอสต้าลงบู๊,ทอฟฟี่วางลูกากูยิงทีมเก่า

 

ศึกลูกหนังถ้วยเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2015/2016 รอบ 6 หรือรอบ 8 ทีม ประจำวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2559 มีลงสนามเตะฟาดแข้งกันคู่เดียว เชลซี ที่เพิ่งอกหักตกรอบยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เจองานหนักยกพลบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ในเวลา 00:30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
 
 
 
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ
 
ฤดูกาล 2015-16
 
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2559
 
 
 
 
 
เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก,12) Vs เชลซี (พรีเมียร์ลีก,10)
 
รอบ 6 (หรือรอบ 8 ทีม)
 
สนาม : กูดิสัน ปาร์ค
ความจุ : 40,569 ที่นั่ง
ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
นักเตะที่น่าจับตามอง : โรเมลู ลูกากู Vs วิลเลี่ยน
เวลาเตะ : 00:30 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 7
อัตราต่อรอง : เอฟเวอร์ตัน ต่อ เสมอ
ติดโทษแบน : เควิน มิรัลลาส (เอฟเวอร์ตัน)
บาดเจ็บ : เอฟเวอร์ตัน > ไบรอัน โอเบียโด้ ส่วน ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แกเร็ธ แบรี่ (ลุ้น)
บาดเจ็บ : เชลซี > ดีเอโก้ คอสต้า, เอแด็น ฮาซาร์ด, จอห์น เทอร์รี่ (ลุ้น)
 
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
 
เอฟเวอร์ตัน : ระบบ 4-5-1
ประตู : โฆเอล โรเบลส
กองหลัง : เชมัส โคลแมน, รามิโร่ ฟูเนส โมรี่, ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์
กองกลาง : มูฮาเหม็ด เบซิช, เจมส์ แม็คคาร์ทธี่ย์, อาร่อน เลนน่อน, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เคราร์ด เดลโลเฟว
กองหน้า : โรเมลู ลูกากู
 
เชลซี : ระบบ 4-5-1
ประตู : ติโบต์ กูร์กตัวส์
กองหลัง : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, เคเนดี้
กองกลาง : จอห์น โอบี-มิเกล, เชส ฟาเบรกาส, วิลเลี่ยน, ออสการ์, เปโดร โรดริเกซ
กองหน้า : โลอิก เรมี่ (อเล็กซานเดร ปาโต้)
 
 
ข้อมูลที่น่าสนใจ
 
- เอฟเวอร์ตัน เป็นฝ่ายเข้ารอบจากหนล่าสุดที่คู่นี้เจอกันในเอฟเอ คัพ โดยชนะจุดโทษในรอบ 4 นัดรีเพลย์ ปี 2011
- อย่างไรก็ตาม เชลซี เป็นฝ่ายชนะ 6 จาก 9 ครั้งหลังสุดที่คู่นี้เจอกัน รวมถึงนัดชิงชนะเลิศเมื่อปี 2009 ที่เวมบลี่ย์ ด้วย (2-1)
- เอฟเวอร์ตัน ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูจาก 2 เกมหลังสุดที่เปิดบ้านพบเชลซี รวมถึงชัยชนะ 3-1 ในพรีเมียร์ลีกต้นฤดูกาล
- สิงห์บลูส์ เป็นฝ่ายเข้ารอบจาก 4 ครั้งหลังสุดที่เล่นเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ และคว้าแชมป์ได้ 3 ครั้งจากโอกาสดังกล่าว (2009, 2010, 2012)
- ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เล่นรอบนี้เป็นครั้งที่ 4 จาก 5 ฤดูกาล โดยผ่านเข้ารอบในปี 2012 แต่ตกรอบโดยแพ้ต่อวีแกน ปี 2013 และอาร์เซน่อล ปี 2014 ซึ่งทั้งสองทีมคว้าแชมป์ในบั้นปลาย
- เชลซี ยิงได้ 7 จาก 8 เกมเยือนหลังสุดในเอฟเอ คัพ โดยทำได้ 20 ประตูในช่วงดังกล่าว
- ทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ แพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดที่เล่นในบ้านรวมทุกรายการ รวมถึงเกมพ่ายเวสต์แฮม 2-3 ทั้งที่นำก่อน 2 ประตูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ทีมของ กุส ฮิดดิ้งค์ ชนะรวด 2 เกมหลังที่เล่นนอกบ้านในทุกรายการ และด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งหมด
- เป็นการพบกันหนที่ 9 ในเวทีนี้ของทั้งคู่ และเป็นทางด้านของ เชลซี ที่ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ถึง 6 ครั้ง (เอฟเวอร์ตัน 3 ครั้ง)
- อย่างไรก็ดี “สิงห์บลูส์” ยังไม่เคยบุกเอาชนะ “ทอฟฟี่” ในศึก เอฟเอ คัพ ได้เลย (เสมอ 2, แพ้ 1)
- เอฟเวอร์ตัน แพ้ 5 จาก 7 ครั้งหลังสุดที่ลงเตะใน เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- ลูกทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ พ่าย 3 จาก 4 เกมเหย้าหลังสุด
- โรเมลู ลูกากู ซัด 4 ประตูจาก 4 เกมที่ลงเตะในรายการนี้ให้กับ เอฟเวอร์ตัน
- กุส ฮิดดิ้งค์ สามารถพาทีมเก็บชัย 6 นัดรวดในถ้วย เอฟเอ คัพ ที่เข้ามาคุม เชลซี
- ดีเอโก้ คอสต้า มีส่วนร่วมกับ 17 ประตูที่ทีมทำได้ ตลอด 15 นัดหลังสุดในทุกรายการที่เขาได้ลงสนาม (11 ประตู, 6 แอสซิส)
 
 
 
ความน่าจะเป็นของเกม
 
เอฟเวอร์ตัน ของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ได้เล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลตัวเอง แถมยังสดกว่าแน่นอน ขณะที่ลูกทีมของ กุส ฮิดดิ้งค์ เพิ่งตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พักน้อยกว่า แต่ดูแล้วไม่ยอมแน่ เพราะมีลุ้นถ้วยแชมป์รายการนี้ใบเดียวที่เหลืออยู่ในซีซั่นนี้
 
พูดถึงฟอร์มของทั้งสองทีม ห้านัดหลังสุด ดูเหมือนว่า เชลซี จะดูดีกว่านิดหน่อย ชนะสามและเสมอกับแพ้อย่างละหนึ่ง ส่วน ทอฟฟี่ ชนะสาม และแพ้สองเกม เกมวันนี้ออกมาสนุกแน่ และเชื่อว่าในที่สุดแล้วจะจบลงด้วยชัยชนะของทีมเยือน หรือไม่ก็ยันเสมอ แต่ไม่แพ้เป็นแน่
 
 
 
 
ผลที่คาด : เอฟเวอร์ตัน 1 เชลซี 2
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก