“บิ๊กอ๊อด”สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงทำฮือฮาลงชิงเก้าอี้นายกบอลไทย

 
 
 
 
 
อดีตผบ.ตร. ประกาศลงชิงชัยนายกสมาคมฟุตบอลชูนโยบาย 4 แฟร์ พร้อมเปิดตัว โค้ชเฮง ร่วมทีมสร้างอคาเดมีลูกหนัง อุบไต๋สภากรรมการแต่ลั่นมีฮือฮาแน่
 
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2015 ที่โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวเปิดตัวเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
 
ในการแถลงข่าว “บิ๊กอ๊อด” ยังได้เปิดตัว วิทยา เลาหกุล อดีตนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ได้ค้าแข้งในยุโรปกับแฮร์ธา เบอร์ลิน ทีมดังของเยอรมัน และ อดีตผู้จัดการทีม มัตซึชิตะ (กัมบะ โอซากะ) ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของชลบุรี เอฟซี มาร่วมทีมเป็นรายแรก ในตำแหน่งประธานฝ่ายเทคนิคของสมาคมฟุตบอล หากตนเองได้รับเลือก ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2015
 
อดีตผบ.ตร. กล่าวว่า ผมได้รับการทาบทาม พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก อดีตผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งที่แล้วก่อนจะถูกยกเลิกไป ให้มาลงสมัคร ซึ่งตนเองก็ยังลังเลในตอนแรก แต่หลังจากสำรวจความเห็นจากหลายสโมสร และผู้ใหญ่ในวงการแล้วจึงตัดสินใจลงสมัคร
 
“หลายๆท่านบอกถึงเวลาแล้วที่สมาคมฟุตบอลไทยจะเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น ผมจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะกระโดดเข้ามาในเวทีนี้ เพราะผมต้องการรับใช้ชาติ และตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญ”
 
พล.ต.อ. สมยศ กล่าวต่อว่า ตนเองได้เชิญ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ผู้ที่มีประสบการณ์ในทุกๆด้าน ทั้งในฐานะนักฟุตบอลและโค้ช ให้เข้ามาดูแลทางด้านเทคนิค ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นต้องมี
 
“ส่วนนโยบายผมใช้คำว่า FAIR (แฟร์ ) เป็นหัวใจในการทำงาน คือ 1. แฟร์ ในเรื่องการบริหารสมาคม องค์กร ต้องมีความโปร่งใสเป็นธรรม 2. แฟร์เรื่องการใช้จ่ายเงินทอง ต้องมีการตรวจสอบ ได้รับรู้ว่าสิทธิประโยชน์ต่างๆเป็นอย่างไร
 
3.แฟร์ในเรื่องการตัดสิน ต้องมีการปฏิรูปองค์กร ผู้ตัดสินให้เป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ที่ต้องได้รับความเชื่อถือ ศรัทธา พัฒนาศักยภาพผู้ตัดสิน และเสริมสร้างจริยธรรมวิชาชีพผู้ตัดสินควบคู่กับการสร้างรายได้
 
4. แฟร์เรื่องสิทธิประโยชน์ สมาคมหรือสโมสรฟุตบอลต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ต้องได้รับสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มขึ้น”
 
นอกจากนี้พล.ต.อ. สมยศ กล่าวต่อว่า การบริหารบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จะมีการปรับเปลี่ยนใหม่หมด จะไม่ให้กลุ่มบุคคลมาดูแลโดยลำพัง ตนเองจะให้ส่งตัวแทนสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก 18 ทีมเข้ามานั่งในบริษัททีพีแอล ร่วมกันบริหาร รับรู้ ตัดสินใจ ตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินทองภายในสมาคมฯ
 
อีกนโยบายสำคัญของ พล.ต.อ. สมยศ ในการลงสมัครเป็นนายกสมาคมฟุตบอลครั้งนี้คือ การจัดอคาเดมี่ ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยจะทำเป็นความร่วมมือของสมาคมฟุตบอลฯ กับ กกท. และ สโมสรสมาชิกและภาคเอกชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมชั้นนำของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
 
“ผมจะเปิดโอกาสให้ทุกสโมสร ทุกระดับส่งนักฟุตบอลของตัวเองเข้ามาอยู่ใน อคาเดมี่ 1 ปี โดยสมาคมฯจะออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ค่ากินค่าเรียน ทั้งหมด เราจะหาผู้ฝึกสอนที่มีความรู้ โดย โค้ชวิทยา เป็นผู้รับผิดชอบ”
 
“ก่อนที่จะตัดสินใจลงสมัครผมได้หารือกับ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานเลสเตอร์ คุณวิชัย บอกกับผมว่า ถ้าคุณเป็นนายกสมาคมฯ ท่านจะสนับสนุนผมทุกรูปแบบ เพื่อพัฒนาฟุตบอลของประเทศไทยให้เทียบกับต่างประเทศ อาจจะมีการแลกเปลี่ยนผู้ฝึกสอน และเปลี่ยนนักเตะ ร่วมกับสมาคมฟุตบอลซึ่งทุกวันนี้คุณวิชัยได้ทำอยู่แล้ว”
 
นอกจากนี้ พล.ต.อ. สมยศ ยังมีนโยบายให้ทุกทีมในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ไปแข่งขันฟุตบอลแมตช์พิเศษกับทีมจากลีกภูมิภาคในฐานะทีมเยือน โดยใช้วิธีการจับสลาก เพื่อเปิดโอกาสให้นักฟุตบอลในลีกล่างได้มีประสบการณ์ และยังเป็นการกระตุ้นความตื่นตัวในแต่ละจังหวัดที่สโมสรใหญ่ๆไปเยือน ทั้งยังสร้างรายได้จากการขายบัตรเข้าชมอีกด้วย
 
เมื่อถูกถามถึงจุดเปลี่ยนในการลงสมัครครั้งนี้ พล.ต.อ. สมยศ ตอบว่า “จุดเปลี่ยนคือ ผมเล่นฟุตบอลทุกวันนี้ก็เตะบอลอยู่ ติดตามข่าวสาร แต่แรกผมไม่ได้คิดที่จะมาสมัครเลือกตั้ง จุดเปลี่ยนคือ แมตช์สตูล- ขอนแก่น เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรม สุดท้ายคนที่รับเคราะห์คือตำรวจ ผมเป็นตำรวจผมสะเทือนใจ กรณีสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.เมืองสตูล แต่ผมก็เคารพผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ท่านมีเหตุผลของท่าน”
 
“ผมนั่งคิด ผมจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ การตีกัน กระทืบผู้ตัดสิน เพราะเขาไม่พอใจการตัดสิน เขามองว่ามันไม่ยุติธรรม มันจึงนำไปสู้การทำร้ายร่างกายกัน เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหานี้ให้หมดไปต้องแก้ที่ต้นเหตุ ทำอย่างไรให้แฟนบอลรับได้กับการตัดสินกรรมการ เราจำเป็นต้องปรับปรุงการตัดสินของกรรมการให้เป็นที่ยอมรับ ฝึกให้มีจริยธรรมการตัดสิน ถ้าแก้ได้ ท่านจะไม่เห็นแฟนคลับตีกัน แฟนคลับลงไปกระทืบกรรมการ ”
 
เมื่อถูกถามถึงทีมสภากรรมการฯที่จะลงสมัครในครั้งนี้ พล.ต.อ. สมยศ บอกว่าตอนนี้ผมมีคุณวิทยา คนเดียว แต่ก็มีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนจะเข้ามาช่วยผม ถ้าผมพูดไปฮือฮาแน่ครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก