พรีวิว AFF Suzuki Cup ไทย-มาเลเซีย (เลก 2)
อุปสรรคด่านสุดท้ายของทีมชาติไทย ก่อนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงเจ้าอาเซียน คือการพิชิตเสือเหลือง ในสนามเก่งของตัวเอง โดยมีแฟนบอลไทยเต็มสนามเป็นพลังใจและสักขีพยาน
หลังเสมอกัน 1-1 ที่บูกิต จาลิล สเตเดียม ทีมชาติไทยได้เปรียบมาเลเซียด้วยกฎประตูทีมเยือน ถ้าเสมอแบบไม่มีสกอร์ จะเป็นทัพช้างศึกที่เข้าไปชิงชนะเลิศกับสิงคโปร์ทันที
แต่ถึงอย่างนั้น วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือเลือดดัตช์ก็ตั้งเป้าไว้ที่ชัยชนะเท่านั้น เช่นเดียวกับธีรศิลปื แดงดา ที่ยืนยันว่า ทีมชาติไทยจะเล่นในสไตล์ของตัวเอง และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้
ส่วนดาโต๊ะ กฤษสมี ราชโคปาล กุนซือเสือเหลือง เชื่อว่าทีมของเขานั้นไม่มีอะไรจะเสีย และต้องยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นมา เพื่อพลิกสถานการณ์ให้ได้
ทีมชาติไทยจะไม่มีวินฟรีด เชเฟอร์ ที่ถูกเชิญออกจากสนามในนัดที่แล้ว ลงคุมเกมข้างสนามในนัดนี้ หลังยื่นอุทรณ์ไม่ทันเวลา แต่จะได้ผู้เล่นตัวหลักคืนสู่ทีมทั้งหมด ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้รับบาดเจ็บเล้กน้อยระหว่างการฝึกซ้อม พร้อมเต็มที่สำหรับนัดนี้
ฝั่งมาเลเซีย กฤษณสมี ราชโคปาล กุนซือมาดพ่อมด จะไม่มี วัน ซ็อค ไฮกอล ปีกตัวจี๊ด และซาฟิอี ซาลิ ที่ยังไม่แน่ว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ แต่มาฮาลี ญาซูลี "คาฟูมาเลเซีย" พร้อมลงสนามดวลกับคู่หูกราบซ้าย ธีราทร-อนุชา อีกครั้ง
เกมนี้จะเล่นกันที่สนามศุภชลาศัย ที่ตอนนี้ตั๋วขายเกลี้ยง จึงคาดว่าแฟนบอลจะเข้ามาให้กำลังใจทีมชาติไทยกันเต็มความจุแน่นอน
รู้หรือไม่?
+++ ทีมชาติไทยไม่แพ้มาเลเซียในบ้านตัวเองมากว่า 8 ปี โดยเกมสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ สิงหาคม ปี 2004 โดยเกมนั้นไทยแพ้ไป 1-2
+++ ทีมชาติไทย พบกับ มาเลเซีย ในบ้านมา 44 นัด ชนะ 24 เสมอ 10 แพ้ 10
+++ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นมาเป็นผู้ทำประตูให้ไทยในการพบกับมาเลเซียรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มากที่สุดด้วยจำนวน 3 ประตูเท่ากับ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตำนานกองหน้าจอมตีลังกา หลังโหม่งให้ ไทย ตามตีเสมอ มาเลเซีย 1-1 ที่บูกิต จาลิล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
+++ สถิติของทีมชาติมาเลเซียในการพบกับทีมชาติไทย ในรายการนี้ คือ ชนะ 2 แพ้ 2 เสมอ 4
ครั้งสุดท้ายที่มาเลเซียลงดวลกับทีมชาติไทย ที่สนามศุภชลาศัย คือรายการนี้เอง ในปี 2007 ซึ่งนัดนั้น มาเลเซียแพ้ไป 1-0
ที่มา www.goal.com
