บัคก้าซัดจุดโทษช่วยมิลานบุกเจ๊าโตริโน่2-2แบ่งแต้ม

 

การ์ลอส บัคก้า ซัดจุดโทษช่วย “ปีศาจแดง-ดำ”เอซี มิลาน บุกไปไล่ตีเสมอ “กระทิงหิน”โตริโน่ ถึงถิ่น 2-2 แม้ท้ายเกมจะเหลือผู้เล่น 10 คน แบ่งแต้มกลับบ้านได้สำเร็จ
 
 
 
 
ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 2016-17 (นัดที่ 20)
 
วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2560
 
โตริโน่ 2-2 เอซี มิลาน
 
สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้ กรันเด้ โตริโน่
ผู้ตัดสิน : เปาโล ตายาเวนโต้
ถ่ายทอดสด : beIN Sports 3
เวลาเตะ : 02.45 น.
ผู้ทำประตู : [1-0]อันเดรีย เบล็อตติ น.21, [2-0]มาร์โก เบนัสซี่ น.26, [2-1]อันเดรีย แบร์โตลัชชี่ น.55, [2-2]การ์ลอส บัคก้า น.60(จุดโทษ)
 
นาที 21 โตริโน่ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จังหวะที่ อาเดม ลายิช ยิงได้ไม่ดีเท่าไหร่แต่ไปตรงตัว อันเดรีย เบล็อตติ จิ้มเปลี่ยนทางผ่าน จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าประตู
 
นาที 26 “กระทิงหิน” มาได้ประตูที่สอง ยาโก้ ฟัลเก้ จ่ายบอลให้ มาร์โก เบนัสซี่ ยิงแบบตอกส้นส่งบอลลอยข้ามตัว จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าประตูไปเป็น 2-0
 
นาที 32 เอซี มิลาน มาเสียจุดโทษเมื่อ อิกนาซิโอ อบาเต้ เข้าเบียด อันโตนิโอ บาร์เรก้า ล้มลงในเขตก่อนที่ อาเดม ลายิช จะยิงตรงกลางประตูโดน จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า ปัดเอาไว้ได้
 
นาที 55 “ปีศาจแดง-ดำ” มาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จังหวะที่ อันเดรีย แบร์โตลัชชี่ ยิงหน้าประตูจ่อๆ ไปโดน โจ ฮาร์ท สกัดบอลออกมาได้ แต่โกลไลน์ส่งสัญญาณว่าบอลข้ามเส้นไปเรียบร้อย
 
นาที 60 ทีมเยือนมาได้จุดโทษและ การ์ลอส บัคก้า รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ทีมไล่ตีเสมอ 2-2
 
นาที 89 มิลาน ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ อเลสซิโอ โรมานโญลี่ โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นแดงไล่ออกสนาม
 
จบเกม 90 นาที โตริโน่ เปิดบ้านเสมอกับ เอซี มิลาน ไป 2-2 แบ่งกันทีมละแต้ม
 
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 
โตริโน่ : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท
กองหลัง : ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, ลูก้า รอสเซตตินี่, เอมิเลียโน่ โมเร็ตติ, อันโตนิโอ บาร์เรก้า
กองกลาง : มาร์โก เบนัสซี่, เมียร์โค วัลดิฟิออรี่, โจแอล โอบี
กองหน้า : ยาโก้ ฟัลเก้, อันเดรีย เบล็อตติ, อาเดม ลายิช
 
เอซี มิลาน : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า
กองหลัง : อิกนาซิโอ อบาเต้, กาเบรียล ปาเลตต้า, อเลสซิโอ โรมานโญลี่, ดาวิเด้ คาลาเบรีย
กองกลาง : มาริโอ ปาซาลิช, มานูเอล โลคาเตลลี่, อันเดรีย แบร์โตลัชชี่
กองหน้า : ซูโซ่, การ์ลอส บัคก้า, จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก