ป๋าภูมิใจชนะชมเวลเบ็คหงส์ยังพอใจฟอร์ม

 

 

  เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภูมิใจกับผลงานของลูกทีมที่สามารถเปิดรังโอลด์แทร็ฟ ฟอร์ด เฉือนชนะ"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ไปได้ 2-1 ด้าน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือประจำถิ่นแอนฟิลด์ ยังพอใจกับฟอร์มลูกทีมถึงแม้ผลออกมาจะเป็นฝ่ายแพ้ก็ตาม 
 
 
 
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน / Sir Alex Ferguson
 
     ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2012-2013 นัดที่ 22 ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา!"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทร็ฟ ฟอร์ด เฉือนเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ไปได้หวุดหวิด 2-1 โดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยิงให้เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 19 และ เนมานย่า วิดิช นาที่ 54 ก่อนที่นาที 57 ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ จะยิงประตูไข่แตกและเป็นประตูปลอบใจเพราะช่วงเวลาที่เหลือต่างก็ไม่สามารถทำสกอร์เพิ่มกันได้ 
 
     ภายหลังจบเกมการแข่งขัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า!"มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ออกมาดีอย่างที่เราเป็นแบบนี้มานาน เมื่อคุณต้องแข่งกับลิเวอร์พูล คุณก็ต้องโชว์ฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุด ซึ่งเราก็เป็นอย่างนั้น ผมคงยินดีที่จะอ้าแขนรับผลการแข่งขันแบบนี้เอาไว้ตั้งแต่ก่อนเกมแล้ว ในครึ่งแรกจนไปถึงช่วงที่เราได้ประตูที่ 2 มันสมบูรณ์แบบมากๆและเราก็ควรจะมีประตูที่ 3 หรือ 4 เพิ่ม จนเมื่อพวกเขาทำประตูตีไข่แตกได้" 
 
     "และได้อาศัยแรงฮึดจากประตูนั้น พวกเขาเปิดเกมอัดใส่เราในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย และก็ครองเกมไว้ได้หมด แต่เราก็ทำได้ดี ผมคิดว่าสามแต้มในวันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ แฟนบอลของพวกเขาส่งเสียงเชียร์กันเต็มที่ และหลังจากนั้นมันก็เป็นงานที่ยากสุดๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งผมดีใจมากๆที่เราเอาชนะมาได้ ผมยังไม่ได้ไปย้อนดูจังหวะที่ลิเวอร์พูล ได้ประตูหรอกนะ แต่มันดูเหมือนเราจะเสียง่ายไปนิดๆเป็นอีกครั้งที่ผู้รักษาประตูดาบิด เดเกีย อุตส่าห์เซฟลูกยิงจังหวะหนึ่งเอาไว้ได้แล้ว แต่ก็ไม่มีใครที่ตามเข้ามาเล่นในจังหวะซ้ำเลย" 
 
     "ประตูที่ลิเวอร์พูลได้ มันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขามีกำลังใจกันอย่างมาก แล้วหลังจากนั้นเกมรับในบางช่วงของเราก็เป๋กันนิดๆและถึงขั้นเข้าตาจนในหลายครั้งด้วย แต่เราก็ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ ช่วง 3 หรือ 4 นาทีสุดท้ายนั้น พวกเขาโหมดันผู้เล่นเข้ามาในกรอบเขตโทษเยอะมาก และเราก็ต้องรับมือกับการสลับสับเปลี่ยนกันนิดหน่อย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือชัยชนะ มันจะมีบางช่วงที่คุณต้องตั้งรับกันอย่างหนักอยู่แล้ว และวันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น" 
 
     "ส่วน แดนนี่ เวลเบ็ค วิเศษมากๆ ผมคิดว่าวันนี้เขาได้สร้างความลำบากให้เซ็นเตอร์ทีมคู่แข่งทั้งสองคน ทั้งเขาและ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ทำให้กองหลังอีกฝ่ายเจองานหนักมากๆ ในครึ่งแรก เหตุผลที่ เวลเบ็ค ได้ลงสนามวันนี้ เพราะเราต้องการใครซักคนมาป่วนมิดฟิลด์ของพวกเขา ซึ่งเขาก็ทำได้เยี่ยม วันนี้เขาวิ่งยังกับม้าเลย และสมควรที่จะได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จริงๆ"นายใหญ่ชาวสก็อตต์ ในวัย 71 ปีร่ายยาว! 
 
     ด้าน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์เหนือของ"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า!"ผมภูมิใจกับลูกทีมมากๆผมคิดว่าในครึ่งแรกเรายังเล่นได้ไม่ค่อยแน่นอน ต่อบอลกันยังไม่ดี ทำให้คู่แข่งมีโอกาสทำประตู แต่ช่วงครึ่งหลังถึงแม้เราจะเป็นฝ่ายตาม 2-0 ทุกคนก็สู้อย่างเต็มที่ ความจริงจากรูปเกมของเรามันก็ควรที่จะได้อะไรติดไม้ติดมือบ้าง เราผิดหวังที่แพ้ แต่จังหวะทำประตูของ สเตอร์ริดจ์ ก็ยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่าครึ่งแรกเราเล่นแบบลังเลในบางจังหวะที่เราผ่านบอล" 
 
     "แต่ในครึ่งหลังมันเป็นเรื่องง่ายที่คุญจะยอมแพ้เมื่อตามหลัง 2-0 แต่นักเตะฮึดสู้กลับมาได้อย่างสุดยอด และผมคิดว่าครึ่งหลังเราสมควรที่จะได้บางสิ่งจากเกมนี้ มันไม่ใช่ง่ายๆเมื่อคุณต้องเล่นด้วยนักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งจะลงเล่นครั้งแรกในโอลด์แทร็ฟ ฟอร์ด และเมื่อคุณมองดูประสบการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขามีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เราผิดหวังกับจังหวะฟรีคิก เพราะเราไม่สามารถป้องกันได้ดีพอ แต่หลังจากนั้นเราแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ได้อย่างยอดเยี่ยม และเรายังต้องเก็บรายละเอียดกันอีกซัก 2-3 อย่าง ซึ่งที่เหลือจากนั้นเราทำได้ดีแล้ว" 
 
     "เราต้องฉกฉวยโอกาสจากฟอร์มการเล่นในครึ่งหลัง เรารู้ถึงสิ่งที่ต้องแก้ไขที่เราจำเป็นต้องทำหากเราจะรักษาโอกาสในการลุ้นทำอันดับให้สูงที่สุดในตารางลีก มีความแตกต่างกันถึง 21 แต้มก่อนเกมนี้ แมันไม่ใช่ 21 คะแนนในแง่ของคุณภาพ มันเป็น 21 แต้มในแง่ของขุมกำลังภายในทีม ดังนั้นถ้าเราจะเบียดพวกเขาได้ เราต้องมีการเสริมทัพ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสู้กับพวกเขาได้ในระยะยาว ผมคิดว่า สเตอร์ริดจ์ เป็นนักเตะดาวรุ่งชั้นยอดซึ่งจำเป็นต้องได้รับโอกาส เขาจะยิงประตูได้อย่างมากมายให้กับลิเวอร์พูล ผมมั่นใจเช่นนั้นจริงๆ"อดีตนายใหญ่สวอนซี กล่าว!
 
 
 
 
 
ที่มา  Rakball